ในการแข่งขันเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้นัดประวัติศาสตร์ครั้งสุดท้ายที่สนามกูดิสัน พาร์ค เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ กลายเป็นฮีโร่ด้วยการยิงประตูตีเสมอในนาทีที่ 98 ทำให้เอฟเวอร์ตันเสมอกับลิเวอร์พูล 2-2 ในเกมที่เต็มไปด้วยดราม่าและอารมณ์พลุ่งพล่าน
เรื่องราวแห่งความทรงจำ
การแข่งขันเริ่มต้นด้วยความคึกคักเมื่อ เบโต้ ทำประตูให้เอฟเวอร์ตันขึ้นนำก่อน จากลูกฟรีคิกอันชาญฉลาดของ จาร์ราด แบรนท์เวต ท่ามกลางบรรยากาศที่ร้อนแรงของแฟนบอลเจ้าถิ่น อย่างไรก็ตาม อเล็กซิส แมค อัลลิสเตอร์ โหม่งทำประตูตีเสมอให้ลิเวอร์พูลจากลูกครอสของโมฮาเหม็ด ซาลาห์
เกมดำเนินไปอย่างสูสีในครึ้งหลัง โดยเอฟเวอร์ตันมีโอกาสทำประตูหลายครั้ง ดูกูเร่ โหม่งพลาดเป้า และแบรนท์เวตมีประตูถูกยกเลิกเนื่องจากล้ำหน้า ก่อนที่ซาลาห์จะทำประตูให้ลิเวอร์พูลขึ้นนำ 2-1 จากจังหวะที่เคอร์ติส โจนส์ เบียดชนะลูกกับเจค โอไบรอัน
ความวุ่นวายในช่วงท้ายเกม
ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 98 ทาร์คอฟสกี้ ได้รับโอกาสและไม่พลาดโขกบอลเข้าประตูอย่างเด็ดขาด ทำให้สกอร์เท่ากัน 2-2 เหตุการณ์หลังจากนั้นเต็มไปด้วยความวุ่นวาย มีผู้เล่นและทีมงานถูกไล่ออกหลายคน รวมถึง อับดุลลาย ดูกูเร่, เคอร์ติส โจนส์, อาร์เน่ สล็อต และซิปเก้ ฮุลส์ฮอฟฟ์
ความสำคัญทางประวัติศาสตร์
การแข่งขันครั้งนี้มีความสำคัญเป็นพิเศษเนื่องจากเป็นเกมเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้ครั้งสุดท้ายที่จะจัดขึ้นที่สนามกูดิสัน พาร์ค ทำให้สถิติการเผชิญหน้ากันของทั้งสองทีมที่สนามแห่งนี้จบลงที่ 41 ชัยชนะเท่ากัน การทำประตูของทาร์คอฟสกี้ในนาทีสุดท้ายจึงเป็นช่วงเวลาประวัติศาสตร์ที่แฟนบอลเอฟเวอร์ตันจะจดจำไปอีกนาน
มุมมองของผู้จัดการทีม เดวิด มอยส์
เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีมเอฟเวอร์ตัน แสดงความคิดเห็นหลังเกมว่านี่เป็นการจบเกมที่ยอดเยี่ยม และการทำประตูในนาทีสุดท้ายของเกมดาร์บี้นัดสุดท้ายที่กูดิสัน พาร์ค ถือเป็นการจบที่เหมาะสม แม้ว่าทีมจะหวังที่จะเอาชนะให้ได้ แต่การตีเสมอในช่วงท้ายเกมก็เป็นผลที่น่าพอใจ
ผลกระทบต่อตารางคะแนน
แม้จะเสียสองคะแนนในเกมนี้ แต่ลิเวอร์พูลยังคงนำจ่าฝูงด้วยการมี 7 คะแนนนำห่างทีมอันดับสอง ส่วนเอฟเวอร์ตันได้คะแนนสำคัญในการหนีโซนตกชั้น
บรรยากาศหลังเกม
หลังจบการแข่งขัน แฟนบอลเอฟเวอร์ตันยังคงอยู่ในสนามเป็นเวลานานเพื่อซึมซับบรรยากาศครั้งสุดท้าย แม้ว่าผู้เล่นจะกลับเข้าห้องแต่งตัวไปแล้วก็ตาม เป็นการแสดงให้เห็นถึงความผูกพันระหว่างแฟนบอลกับสนามกูดิสัน พาร์ค ที่จะถูกจดจำไปอีกนาน
ประวัติศาสตร์และมรดกของสนามกูดิสัน พาร์ค
สนามกูดิสัน พาร์คถือเป็นหนึ่งในสนามฟุตบอลที่เก่าแก่ที่สุดในอังกฤษ เปิดใช้งานครั้งแรกในปี 1892 และเป็นบ้านของสโมสรเอฟเวอร์ตันมาตลอด 132 ปี สนามแห่งนี้ได้ผ่านเหตุการณ์สำคัญมากมายในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ ทั้งการเป็นสนามที่ใช้จัดการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 1966 และเคยเป็นสนามที่มีผู้ชมเข้าชมมากที่สุดถึง 78,299 คนในเกมระหว่างเอฟเวอร์ตันกับลิเวอร์พูลในปี 1948
สนามแห่งนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม อัฒจันทร์ไม้ที่เก่าแก่ และบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ แม้ว่าจะมีข้อจำกัดในด้านสิ่งอำนวยความสะดวกสมัยใหม่ แต่กูดิสัน พาร์คก็ยังคงเป็นสนามที่สร้างความหวาดกลัวให้กับทีมเยือนเสมอมา ด้วยแรงสนับสนุนอันเกรียงไกรจากแฟนบอลเจ้าถิ่น
ความหมายต่อวงการฟุตบอล
การแข่งขันครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นเกมดาร์บี้ธรรมดา แต่ยังเป็นการปิดฉากประวัติศาสตร์อันยาวนานของการแข่งขันระหว่างสองทีมคู่แข่งตลอดกาลแห่งเมืองลิเวอร์พูลที่สนามกูดิสัน พาร์ค ซึ่งเป็นสนามที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 130 ปี
การที่เกมจบลงด้วยผลเสมอและทั้งสองทีมมีสถิติชนะเท่ากันที่สนามแห่งนี้ ถือเป็นการจบที่เหมาะสมสำหรับสนามที่เต็มไปด้วยความทรงจำมากมาย ทั้งความสุข ความเศร้า ชัยชนะ และความพ่ายแพ้ ที่แฟนบอลทั้งสองทีมได้ร่วมแบ่งปันกันมาตลอดหลายทศวรรษ
ประตูสุดท้ายของทาร์คอฟสกี้จะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้ และจะเป็นความทรงจำที่มีค่าสำหรับแฟนบอลเอฟเวอร์ตันที่ได้เห็นทีมรักของพวกเขาสร้างผลงานได้อย่างน่าประทับใจในเกมสุดท้ายที่กูดิสัน พาร์ค
เกมนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความเข้มข้นและความดุเดือดของฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ที่แม้จะเป็นนาทีสุดท้ายของการแข่งขัน ทุกทีมก็ยังคงมีโอกาสที่จะพลิกผลการแข่งขันได้เสมอ และนี่คือเสน่ห์ของฟุตบอลที่ทำให้แฟนบอลหลงใหลและติดตามกีฬาชนิดนี้อย่างไม่มีวันเบื่อ
อนาคตของเอฟเวอร์ตัน
การย้ายออกจากกูดิสัน พาร์คถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของสโมสรเอฟเวอร์ตัน สนามใหม่ที่กำลังก่อสร้างที่ Bramley-Moore Dock จะมีความจุ 52,888 ที่นั่ง ทันสมัยด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกระดับโลก และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2025
สนามใหม่นี้จะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับสโมสร ด้วยพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่มากขึ้น โอกาสในการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย และประสบการณ์การชมเกมที่ดีขึ้นสำหรับแฟนบอล แม้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แต่ก็เป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยให้สโมสรสามารถแข่งขันได้ในยุคสมัยใหม่
การสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรม
แม้ว่าจะย้ายไปสนามใหม่ แต่สโมสรเอฟเวอร์ตันมีแผนที่จะรักษามรดกทางวัฒนธรรมของกูดิสัน พาร์คเอาไว้ โดยจะมีการสร้างพิพิธภัณฑ์และพื้นที่แสดงประวัติศาสตร์ในสนามใหม่ รวมถึงการนำเอาองค์ประกอบบางอย่างจากกูดิสัน พาร์คไปติดตั้งที่สนามใหม่ เพื่อรักษาจิตวิญญาณและความทรงจำอันยาวนานเอาไว้ แฟนบอลสามารถติดตามข่าวสารและอัตราต่อรองของเอฟเวอร์ตันผ่าน SBOBET ได้อีกด้วย
การจากลาครั้งนี้จึงไม่ใช่การสิ้นสุด แต่เป็นการเริ่มต้นบทใหม่ของสโมสรเอฟเวอร์ตัน ที่จะก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับการรักษาประวัติศาสตร์และตำนานของกูดิสัน พาร์คเอาไว้ในความทรงจำของแฟนบอลตลอดไป