แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องเผชิญกับอีกหนึ่งค่ำคืนแห่งความผิดหวัง หลังจากถูกเรอัล มาดริดถล่มอย่างหมดรูปในศึกแชมเปียนส์ลีกเมื่อกลางสัปดาห์ พวกเขากลับมาสู่พรีเมียร์ลีกด้วยโปรแกรมหนัก พบกับลิเวอร์พูลที่กำลังนำเป็นจ่าฝูง
ที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้น คือ ซิตี้อยู่ในสถานะ "ทีมรอง" อย่างชัดเจน พวกเขาหลุดจากเส้นทางลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกไปแล้ว sbo และตลอด 26 นัดหลังสุดในทุกรายการ ซิตี้แพ้ไปถึง 13 นัด สิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในยุคของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา
แต่ปัญหาของทีมชุดนี้มีมากกว่าผลการแข่งขัน พวกเขากำลังเผชิญกับปัญหาในหลายมิติ ทั้งด้านแท็คติก สภาพจิตใจ และความมั่นใจของนักเตะ
ต้นตอของปัญหาไม่ใช่แค่ฟอร์มตก แต่เป็นปัญหาทางแท็คติก
แม้ว่าซิตี้จะมีผู้เล่นระดับโลกและกุนซือที่ดีที่สุดในยุคสมัยนี้ แต่พวกเขากลับกลายเป็นทีมที่มีช่องโหว่เต็มไปหมด
- นักเตะอายุมากขึ้น และมีปัญหาอาการบาดเจ็บ – นักเตะสำคัญอย่าง เควิน เดอ บรอยน์, รูเบน ดิอาส และ ไคล์ วอล์คเกอร์ ต่างต้องดิ้นรนกับสภาพร่างกายที่ไม่สมบูรณ์
- ความผิดพลาดที่ไม่เคยเกิดขึ้น – จากเดิมที่แมนฯ ซิตี้เป็นทีมที่เล่นด้วยความแม่นยำสูง ตอนนี้พวกเขากลับพลาดกันเองบ่อยครั้ง
- ขาดความมั่นใจ – นักเตะหลายคนดูจะสูญเสียความมั่นใจ และมีช่วงเวลาที่พวกเขาเล่นกันอย่างเฉื่อยชา
- การเล่นเกมรุกที่ลดประสิทธิภาพลง – ซิตี้เคยเป็นทีมที่ถล่มประตูคู่แข่งอย่างต่อเนื่อง แต่ตอนนี้พวกเขาทำประตูได้ยากขึ้น
ทั้งหมดนี้เป็นเพียง "อาการ" ของปัญหา แต่รากลึกที่แท้จริงคือสิ่งที่เป๊ป กวาร์ดิโอลาเองก็ยอมรับว่า "แท็คติกเดิมใช้ไม่ได้อีกต่อไป"
การเปลี่ยนแปลงของฟุตบอลยุคใหม่: จุดจบของ ‘เป๊ปฟิคเคชั่น’?
เป๊ป กวาร์ดิโอลา คือผู้บุกเบิกแนวคิด "Jogo de Posicao" หรือ "การเล่นเชิงตำแหน่ง" ซึ่งเป็นรูปแบบการเล่นที่ครองบอลและครอบครองพื้นที่เพื่อสร้างโอกาสแบบเป็นระบบ แต่นี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของฟุตบอลสมัยใหม่
ไม่นานมานี้ เป๊ปกล่าวว่า "ฟุตบอลสมัยใหม่ไม่ได้เกี่ยวกับตำแหน่งเหมือนเดิมอีกแล้ว คุณต้องเล่นให้เข้ากับจังหวะของเกม"
การพูดแบบนี้จากคนที่เป็นต้นตำรับของฟุตบอลสไตล์ "เป๊ปฟิคเคชั่น" นั้นถือว่าเป็นการยอมรับว่าแนวทางของเขากำลังเผชิญกับความท้าทาย
ฟุตบอลยุคใหม่ เร็วกว่า ตรงกว่า และดุดันกว่า
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทีมระดับท็อปเริ่มปรับแนวทางการเล่นของพวกเขาให้แตกต่างจากซิตี้
- ลิเวอร์พูล ในยุคของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ใช้เกมเพรสซิ่งและเกมโต้กลับเร็วเป็นอาวุธหลัก
- ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ของ อังเก้ ปอสเตโคกลู ใช้เกมรุกที่เรียบง่ายและรวดเร็ว
- อาร์เซนอล ของ มิเกล อาร์เตต้า กำลังพัฒนาแนวทางที่ผสมผสานระหว่างความยืดหยุ่นและเกมรุกที่เฉียบคม
จากสถิติพรีเมียร์ลีกในช่วง 8 ฤดูกาลที่ผ่านมา นับตั้งแต่เป๊ปคว้าแชมป์ลีกครั้งแรก มีแนวโน้มที่ชัดเจนว่า
การกดดันสูงเพิ่มขึ้น (Passes Per Defensive Action - PPDA ลดลง)
การเปลี่ยนเกมเร็วมากขึ้น
จำนวนการโจมตีแบบตรงไปตรงมามากขึ้น
แมนฯ ซิตี้ กับเส้นทางข้างหน้า เป๊ปจะปรับตัวได้หรือไม่?
คำถามสำคัญตอนนี้คือ เป๊ป กวาร์ดิโอลา จะปรับตัวตามแนวทางฟุตบอลยุคใหม่ได้หรือไม่?
ซิตี้เคยผ่านช่วงเวลายากลำบากมาก่อน และเป๊ปก็เคยพิสูจน์ว่าเขาสามารถปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เช่น ในฤดูกาล 2022-23 ที่เขาปรับแนวทางให้เหมาะกับ เออร์ลิง ฮาแลนด์ จนคว้าเทรเบิ้ลแชมป์
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้พวกเขาเผชิญกับความท้าทายครั้งใหม่ที่ซับซ้อนยิ่งกว่าเดิม
ทางเลือกของเป๊ปมีอะไรบ้าง?
ปรับปรุงระบบแท็คติก – อาจต้องเพิ่มความเร็วในการเปลี่ยนเกม และลดการพึ่งพาการครองบอลมากเกินไป
สร้างทีมใหม่ – ซิตี้อาจต้องปล่อยนักเตะบางคนออกไป และเสริมทีมด้วยผู้เล่นที่เหมาะกับฟุตบอลยุคใหม่
ยอมรับการเปลี่ยนแปลง – หากแนวทางเดิมใช้ไม่ได้ เป๊ปต้องเปิดใจรับแนวคิดใหม่
บทสรุปวิกฤติที่ซิตี้ต้องเผชิญ หรือการเปลี่ยนผ่านสู่อนาคต?
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อาจกำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในยุคของเป๊ป กวาร์ดิโอลา พวกเขาต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงของฟุตบอลยุคใหม่ และการตัดสินใจของเป๊ปในช่วงนี้จะเป็นตัวกำหนดว่า ซิตี้จะสามารถกลับมาเป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง หรือจะเข้าสู่ช่วงขาลง
สิ่งเดียวที่แน่นอนก็คือ ฟุตบอลกำลังเปลี่ยนแปลง และซิตี้จะต้องเปลี่ยนตาม ไม่เช่นนั้น พวกเขาอาจจะกลายเป็นเพียงอดีตของความยิ่งใหญ่ในพรีเมียร์ลีก