การถกเถียงที่ลุกเป็นไฟในวงการฟุตบอลพรีเมียร์ลีกเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากรายการ "Saturday Social" ของ Sky Sports ได้จุดประเด็นร้อนแรงเกี่ยวกับการเลือกผู้เล่นในตำแหน่งปีกขวาสำหรับทีมยอดเยี่ยมตลอดกาลของพรีเมียร์ลีก ระหว่างสองซูเปอร์สตาร์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก - โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แห่งลิเวอร์พูล และคริสเตียโน โรนัลโด้ อดีตดาวเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
การโต้เถียงดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่าง นีฟ เปตรุซซิเอลโล่ และ ลอว์เรนซ์ เบอรี่ (หรือที่รู้จักกันในนาม 'บูเวย์') โดยทั้งคู่ต่างมีความเห็นที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง นีฟอยู่ฝั่งของซาลาห์ ในขณะที่บูเวย์สนับสนุนโรนัลโด้ แม้ว่าทั้งคู่จะเห็นพ้องต้องกันว่า ทีเอร์รี อองรี และ เวย์น รูนี่ย์ ควรเป็นสองตัวหลักในแนวรุกของทีมยอดเยี่ยมตลอดกาล แต่ตำแหน่งปีกขวากลับกลายเป็นประเด็นถกเถียงที่ร้อนแรงที่สุด
แม้ว่าในที่สุดแล้ว รายการ Saturday Social จะโหวตให้โรนัลโด้เหนือกว่าซาลาห์ แต่การถกเถียงนี้ยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด จนทำให้นักข่าวกีฬาสองคนของสำนักต้องออกมาแสดงความคิดเห็นและโต้แย้งกันเกี่ยวกับเรื่องนี้
ซาลาห์ ราชาแห่งอียิปต์ผู้ครองพรีเมียร์ลีก
หากเราพูดถึงทีมยอดเยี่ยมแห่งยุโรปหรือทีมยอดเยี่ยมของโลก คริสเตียโน โรนัลโด้อาจเหนือกว่าโมฮาเหม็ด ซาลาห์ แต่ในบริบทนั้น โรนัลโด้จะถูกเลือกในตำแหน่งกองหน้า ไม่ใช่ปีกขวา หากเราพูดถึงพรีเมียร์ลีกล้วนๆ โรนัลโด้แทบไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเข้ามาอยู่ในการสนทนาเดียวกันกับราชาแห่งอียิปต์อย่างซาลาห์
ฤดูกาลที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีกของซาลาห์ เหนือกว่าฤดูกาลที่ดีที่สุดของโรนัลโด้อย่างชัดเจน ซาลาห์แสดงฟอร์มได้ดีกว่าและคงเส้นคงวากว่าในลีกอังกฤษ ข้อโต้แย้งเดียวที่สนับสนุนการเลือกโรนัลโด้มากกว่าดาวเตะลิเวอร์พูล คือสิ่งที่โรนัลโด้ทำได้หลังจากออกจากอังกฤษไปแล้ว แต่ถ้าเป็นเช่นนั้น เราจะนำมาใช้เป็นเกณฑ์ในการเลือกทีมยอดเยี่ยมตลอดกาลของพรีเมียร์ลีกได้อย่างไร? เช่นเดียวกับการเลือกเว็บเดิมพันที่ดีที่สุด sbobet ก็เป็นตัวเลือกที่ไม่อาจมองข้ามได้
จริงอยู่ที่โรนัลโด้คว้าแชมป์ได้มากกว่า แต่หากเราใช้จำนวนแชมป์เป็นเกณฑ์ ตำแหน่งปีกขวาของเราก็ควรเป็นของเดวิด เบ็คแฮม อย่างไม่ต้องสงสัย ณ จุดนี้ ซาลาห์คือนักเตะตำแหน่งปีกขวาที่ดีที่สุดเท่าที่พรีเมียร์ลีกเคยมีมา และไม่มีใครเทียบได้
ซิเมียน โกแลม หนึ่งในนักข่าวที่ร่วมวิเคราะห์การโต้เถียงนี้ ได้นำเสนอทีมยอดเยี่ยมตลอดกาลของพรีเมียร์ลีกในระบบ 4-4-2 ของเขา ประกอบด้วย: เปเตอร์ เช็ก; แกรี่ เนวิลล์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล; รอย คีน, แฟรงค์ แลมพาร์ด; เควิน เดอ บรอยน์; โมฮาเหม็ด ซาลาห์, เวย์น รูนี่ย์, ทีเอร์รี อองรี โดยมีเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันเป็นผู้จัดการทีม
สถิติและผลงานของซาลาห์ในพรีเมียร์ลีกนั้นน่าทึ่งอย่างไม่น่าเชื่อ นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมลิเวอร์พูลในปี 2017 เขาสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการลูกหนังอังกฤษอย่างต่อเนื่อง ด้วยสไตล์การเล่นที่เฉียบคมและความสามารถในการทำประตูที่น่าเกรงขาม ซาลาห์ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาคือหนึ่งในนักเตะที่อันตรายที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก
ในฤดูกาลแรกกับลิเวอร์พูล ซาลาห์ทำลายสถิติด้วยการยิง 32 ประตูในพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในฤดูกาลเดียวของลีกในรูปแบบ 38 นัด นอกจากนี้ เขายังรักษาความสม่ำเสมอในการทำประตูและทำแอสซิสต์ได้อย่างน่าทึ่ง จนได้รับฉายา "ราชาแห่งอียิปต์" จากแฟนบอลทั่วโลก
ความสำเร็จของซาลาห์กับลิเวอร์พูลไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ผลงานส่วนตัว แต่ยังรวมถึงความสำเร็จของทีมด้วย เขาเป็นส่วนสำคัญในการพาลิเวอร์พูลคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี และยังช่วยทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก อีกด้วย
โรนัลโด้ ตำนานที่เหนือกว่าตัวเลข
การที่โมฮาเหม็ด ซาลาห์ถูกกล่าวถึงในระดับเดียวกับคริสเตียโน โรนัลโด้นั้น ถือเป็นเกียรติอย่างสูงอยู่แล้ว รางวัลส่วนตัวของทั้งคู่ไม่สามารถเทียบกันได้ แม้จะมีข้อเสนอว่าซาลาห์ซึ่งเล่นในลีกสูงสุดของอังกฤษในช่วงที่ฟอร์มดีที่สุด ได้เล่นดีกว่าในระยะเวลาที่ยาวนานกว่า ซึ่งนั่นเป็นเพียงในพรีเมียร์ลีกเท่านั้น
ส่วนหนึ่งของความยิ่งใหญ่ของโรนัลโด้คือ เขาเก่งมากตั้งแต่อายุยังน้อย เขาคว้ารางวัลบัลลงดอร์ในปี 2008 และได้อันดับสองในปีก่อนหน้านั้นตอนอายุเพียง 22 ปี ในขณะที่ซาลาห์ไม่เคยติดอันดับสามของรางวัลนี้เลย
แม้จะมีความสม่ำเสมอ แต่ซาลาห์ได้รับเลือกให้อยู่ในทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของ PFA เพียงสองครั้งจากเจ็ดฤดูกาลที่ผ่านมานับตั้งแต่ย้ายมาลิเวอร์พูล ในขณะที่โรนัลโด้ได้รับเลือกถึงห้าครั้งจากหกฤดูกาลที่เขาเล่นในพรีเมียร์ลีก ซึ่งการเลือกนี้มาจากการโหวตของนักฟุตบอลในพรีเมียร์ลีกเอง
นอกเหนือจากการทำประตู ข้อโต้แย้งเพื่อสนับสนุนซาลาห์แทบไม่มีอะไรเพิ่มเติม ในขณะที่โรนัลโด้นำเสนอสิ่งที่มากกว่านั้นเพื่อเสริมความสามารถในการทำประตูอย่างสม่ำเสมอของเขา โรนัลโด้ชนะใจแฟนบอลด้วยความสง่างามและทักษะอันน่าทึ่ง
หากเป็นเรื่องของตัวเลขมากกว่าความสามารถ ทีเอร์รี อองรี ก็ไม่ควรถูกเสนอชื่อในทีมยอดเยี่ยมตลอดกาลของพรีเมียร์ลีกเหนือกว่าผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของลีกอย่างอลัน เชียเรอร์ เพราะฉะนั้น เราควรใช้มาตรฐานเดียวกันในการพิจารณา
วิลเลียม บิติบิริ อีกหนึ่งนักข่าวผู้ร่วมวิเคราะห์ได้นำเสนอทีมยอดเยี่ยมตลอดกาลของพรีเมียร์ลีกในระบบ 4-4-2 ของเขา ประกอบด้วย: ปีเตอร์ ชไมเคิล; แกรี่ เนวิลล์, จอห์น เทอร์รี่, เนมันย่า วิดิช, แอชลี่ย์ โคล; พอล สโคลส์, เควิน เดอ บรอยน์, คริสเตียโน โรนัลโด้, เวย์น รูนี่ย์, อลัน เชียเรอร์, ทีเอร์รี อองรี โดยมีเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันเป็นผู้จัดการทีม
ในช่วงเวลาที่โรนัลโด้อยู่กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขาได้พัฒนาตัวเองจากเด็กหนุ่มที่มีทักษะแต่ยังไม่เป็นผู้ใหญ่ ไปสู่นักเตะระดับโลกที่ครบเครื่อง ภายใต้การดูแลของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน โรนัลโด้ได้พัฒนาความสามารถในการทำประตู, การเล่นเป็นทีม และความเป็นผู้นำ ซึ่งทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก
ประสิทธิภาพของโรนัลโด้ในปี 2007-2008 ถือเป็นหนึ่งในฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมที่สุดของนักเตะคนใดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก โดยเขาทำไป 31 ประตูในลีก และช่วยให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกและแชมเปียนส์ลีกในฤดูกาลเดียวกัน ผลงานอันยอดเยี่ยมนี้ทำให้เขาได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ PFA, FWA และ FIFA รวมถึงรางวัลบัลลงดอร์ในปีนั้น
การวิเคราะห์เชิงลึก ตัวเลขและผลงาน
เมื่อเปรียบเทียบตัวเลขในพรีเมียร์ลีกของทั้งสองคน โรนัลโด้ลงเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทั้งหมด 196 นัดในพรีเมียร์ลีก ทำไป 84 ประตู และ 34 แอสซิสต์ คิดเป็นค่าเฉลี่ย 0.43 ประตูต่อเกม ในขณะที่ซาลาห์ลงเล่นให้กับลิเวอร์พูลกว่า 200 นัดในพรีเมียร์ลีก ทำไปกว่า 120 ประตู และ 40 แอสซิสต์ คิดเป็นค่าเฉลี่ยที่สูงกว่า 0.60 ประตูต่อเกม
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเพียงอย่างเดียวไม่ได้บอกเล่าเรื่องราวทั้งหมด โรนัลโด้มาถึงพรีเมียร์ลีกตั้งแต่อายุเพียง 18 ปี และใช้เวลาประมาณ 2-3 ปีในการปรับตัวและพัฒนาเป็นซูเปอร์สตาร์ ในขณะที่ซาลาห์มาถึงลิเวอร์พูลในวัย 25 ปี พร้อมกับประสบการณ์จากการเล่นในเซเรีย อา และได้รับประโยชน์จากระบบการเล่นที่ออกแบบมาเพื่อเสริมจุดแข็งของเขาโดยเฉพาะ
ในแง่ของความสำเร็จกับทีม โรนัลโด้คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสามสมัย แชมป์เอฟเอ คัพหนึ่งสมัย แชมป์ลีกคัพสองสมัย และแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกหนึ่งสมัยกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่วนซาลาห์คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกหนึ่งสมัย แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกหนึ่งสมัย แชมป์เอฟเอ คัพหนึ่งสมัย และแชมป์ลีกคัพหนึ่งสมัยกับลิเวอร์พูล
แม้ว่าโรนัลโด้จะมีแชมป์มากกว่า แต่ต้องพิจารณาด้วยว่าเขาเล่นให้กับทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่ครองความยิ่งใหญ่ในยุคนั้น ภายใต้การนำของผู้จัดการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลอย่างเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในขณะที่ซาลาห์ต้องเผชิญหน้ากับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่ครองความยิ่งใหญ่ภายใต้การนำของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า
มุมมองของผู้เชี่ยวชาญและตำนานในวงการ
อดีตนักเตะและผู้เชี่ยวชาญหลายคนได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเปรียบเทียบระหว่างซาลาห์และโรนัลโด้ แกรี่ เนวิลล์ อดีตกัปตันแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยกล่าวว่า "ถ้าคุณถามผมว่าใครคือปีกขวาที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก ผมต้องบอกว่าโรนัลโด้ ไม่ใช่เพราะผมเคยเล่นร่วมกับเขา แต่เพราะสิ่งที่เขาทำได้ในช่วงหลายปีที่เขาอยู่ที่นี่ ความสามารถพิเศษของเขา และพัฒนาการจากเด็กหนุ่มที่มีพรสวรรค์ไปสู่หนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในโลก"
ในขณะที่เจมี่ คาร์ราเกอร์ ตำนานของลิเวอร์พูล กล่าวว่า "ซาลาห์ควรได้รับการยอมรับมากกว่านี้ในฐานะหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก สถิติของเขาน่าทึ่งมาก และเขาทำได้อย่างสม่ำเสมอกับทีมที่ไม่ได้ครองความยิ่งใหญ่เหมือนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในยุคของเฟอร์กูสัน ถ้าพูดถึงผลงานในพรีเมียร์ลีกล้วนๆ ซาลาห์ควรได้รับการจัดอันดับสูงกว่าโรนัลโด้"
โจเอล มาติป อดีตเพื่อนร่วมทีมของซาลาห์ที่ลิเวอร์พูล เคยกล่าวชื่นชมเขาว่า "โมเป็นนักเตะที่พิเศษมาก เขามีทักษะที่น่าทึ่ง ความเร็ว และความสามารถในการทำประตู แต่สิ่งที่ทำให้เขาแตกต่างคือจิตใจที่แข็งแกร่งและการทำงานหนัก เขาไม่เคยพอใจกับสิ่งที่ทำได้และมักจะพยายามปรับปรุงตัวเองอยู่เสมอ"
ขณะที่ริโอ เฟอร์ดินานด์ อดีตเพื่อนร่วมทีมของโรนัลโด้ เคยเล่าถึงความทุ่มเทของโรนัลโด้ว่า "ผมไม่เคยเห็นใครทำงานหนักเท่ากับคริสในการพัฒนาตัวเอง เขามาถึงการฝึกซ้อมก่อนทุกคนและกลับบ้านทีหลังทุกคน เขาหมกมุ่นกับการปรับปรุงทุกด้านของเกมการเล่นของเขา นั่นคือเหตุผลที่เขากลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์"
อิทธิพลนอกสนาม
นอกจากผลงานในสนามแล้ว ทั้งซาลาห์และโรนัลโด้ยังมีอิทธิพลอย่างมากนอกสนามอีกด้วย โรนัลโด้กลายเป็นแบรนด์ระดับโลกด้วยตัวเอง มีผู้ติดตามในโซเชียลมีเดียมากที่สุดในบรรดานักกีฬาทั่วโลก และเป็นหนึ่งในนักกีฬาที่มีรายได้สูงที่สุดตลอดกาล เขาได้สร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนทั่วโลกด้วยเรื่องราวความสำเร็จของเขาจากเด็กหนุ่มธรรมดาในมาเดรา ประเทศโปรตุเกส สู่การเป็นซูเปอร์สตาร์ระดับโลก
ในขณะที่ซาลาห์กลายเป็นไอคอนสำหรับโลกอาหรับและมุสลิม เขาได้ช่วยลดอคติและการเหมารวมที่มีต่อชาวมุสลิมในอังกฤษ ซาลาห์ยังมีส่วนร่วมในงานการกุศลมากมาย โดยเฉพาะในบ้านเกิดของเขาที่อียิปต์ เขาได้บริจาคเงินเพื่อสร้างโรงพยาบาล
